12 เมนูอาหารไทย
1
ต้มยำกุ้ง
2
แกงส้มผักรวม
3
แกงเขียวหวาน
4
พะเเนงไก่
5
แกงมัสมั่นไก่
6
ไก่ผัดผงกะหรี่
7
แกงจืด
8
จิ้มจุ่ม
9
ข้าวหน้าเป็ด
10
ไข่เจียวหมูสับ
11
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง
12
หมูแดดเดียวย่า
ต้มยำกุ้ง
ประวัติความเป็นมา
ไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าถือกำเนิดของอาหารไทยชนิดหนึ่งที่ เรียกว่า “ต้มยำกุ้ง” มาตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่อาจารย์สุจิตต์ วงษ์เทศได้เขียนถึงต้มยำกุ้งไว้ว่า “เมื่อรับข้าวเจ้าจากอินเดียเข้ามาพร้อมกับการค้าทางทะเลอันดามันและศาสนา พราหมณ์-พุทธทำให้ กับข้าวเปลี่ยนไปเริ่มมีน้ำแกงเข้ามาหลากหลาย ทั้งแกงน้ำข้นใส่กะทิแบบอินเดียกับแกงน้ำได้แบบจีน”
วิธีทำ
  1. กุ้งขนาดกลาง 6 ตัว
  2. ตะไคร้ 1 ต้น, หั่นเป็นท่อนๆ และทุบพอแหลก
  3. เห็ดฟางหั่นครึ่ง 12 ดอก
  4. พริกขี้หนู 3-5 เม็ด, ทุบพอแตก
  5. ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
  6. น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำปลา 2-3 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย (หรือน้ำเปล่า)
  9. ผักชี สำหรับโรยหน้า
  10. น้ำพรกเผา (กรณีต้องการทำเป็นต้มยำน้ำข้น)
ขั้นตอนในการทำ
  1. ล้างทำความสะอาดกุ้ง แกะเปลือกออกเหลือแต่หาง พักไว้ (ถ้าไม่มีน้ำซุปไก่ สามารถเอาหัวกุ้ง และเปลือกที่แกะ ไปต้มทำเป็น น้ำซุป จะทำให้ต้มยำมีรสกลมกล่อมขึ้น)
  2. ตั้งน้ำซุป (หรือน้ำเปล่า) ในหม้อขนาดกลาง ใส่ตะไคร้ลงไปต้ม พอน้ำซุปเริ่มเดือด ใส่กุ้งและเห็ดฟาง ต้มต่อไปอีกสักพักจนกุ้งเกือบสุก จึงปิดไฟ ยกหม้อลง (อย่าให้กุ้งสุกมาก เนื้อจะแข็งกระด้าง ไม่อร่อย)
  3. ปรุงรสด้วยพริก,น้ำมะนาวและ น้ำปลา จากนั้นจึงฉีกใบมะกรูดใส่ลงไป คลุกให้ทั่ว ชิมรสให้พอดี (ถ้าต้องการทำเป็นต้มยำน้ำข้น ก็ใส่น้ำพริกเผาลงไปด้วย)
  4. ตักต้มยำใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยผักชี เสริฟทันทีพร้อมข้าวสวยร้อนๆ
ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ถือว่าเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านในการดัดแปลงอาหารของบรรพบุรุษไทยเรา ให้มีสีสันน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังนำสมุนไพรไทยที่มีอยู่รอบๆตัวมาประยุกต์เป็นส่วนผสมของอาหารทำให้มีความอร่อยมากยิ่งขึ้นและที่สำคัญยังอุดมไปด้วยสารอาหารคุณประโยชน์มากมายนั่นเอง ^^