|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ความเป็นมา คั่วกลิ้งเป็นอาหารใต้อีกจานที่แสดงถึงเอกลักษณ์ของท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน เพราะมีรสเผ็ดร้อนของพริกแกงที่มีทั้งพริกสด พริกแห้ง และสมุนไพรเด่นชัด เมื่อนำไปผัดยังต้องใส่สมุนไพรซอย เช่น ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด เพิ่มลงไป สีเหลืองจัดเพราะใส่ขมิ้น รสชาติทั้งเผ็ดทั้งร้อน จัดจ้าน และเมื่อเห็นร้านอาหารไหนขายคั่วกลิ้งจะรู้ทันทีว่าเป็นอาหารภาคใดไม่ได้นอกจากอาหารใต้เท่านั้น คุณค่าทางโภชนาการ สีเหลืองเด่นของคั่วกลิ้งที่เคลือบหมูสับหรือไก่สับและสมุนไพรต่างๆ เป็นสีของขมิ้น สารสีเหลืองในขมิ้นนี้คือ “เคอร์คูมิน” ที่มีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งมีสรรพคุณเป็นยา ช่วยรักษาแก้ท้องอืดท้องเสีย ปัจจุบันยังค้นพบว่าช่วยป้องกันไม่ให้ตับถูกทำลายจากสารพิษ มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เมื่อกินขมิ้นพร้อมกับอาหารจะช่วยป้องกันมะเร็งในลำไส้ และยังช่วยทำลายไวรัสที่ปนเปื้อนมากับอาหารได้ คั่วกลิ้งจึงจัดเป็น “อาหารเป็นยา” อย่างแท้จริง ส่วนผสมพริกแกง
วิธีทำ ผัดเครื่องแกงกับน้ำมันจนหอม ใส่หมูลงผัดให้เข้ากัน ค่อยๆ เติมน้ำเปล่าทีละน้อย ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล ใส่ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ใช้ไฟอ่อนคั่วไปเรื่อยๆ จนเนื้อหมูสุกแห้ง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
@Heart 2018 G-mail : Hartzaa41@gmail.com Tel : 094-770-3887 |